ด้วยสภาพการแข่งขันที่รุนแรง ทำให้ธุรกิจจะต้องปรับตัวและหาหนทางให้อยู่รอดและเติบโตต่อไป
หนทางที่จะทำให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปอย่างมั่นใจคือ “การวางแผนกลยุทธ์”
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้จัดการหลายคนซึ่งยังทำงานตามสัญชาตญาณและอาศัยความรู้สึกในการทำงาน
ทำงานไปวันวัน สั่งงานและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปเรื่อย ๆ ซึ่งแม้ว่าในอดีตวิธีการอย่างนี้จะทำให้อยู่รอดได้
แต่ในปัจจุบันวิธีการแบบนี้ไม่สามารถตอบโจทย์สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้แล้ว
ดังนั้น ถ้าหากผู้จัดการยังคงทำงานในรูปแบบเดิมๆ ก็จะพบปัญหาที่ตามมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น
- การใช้ทรัพยากรที่สิ้นเปลือง
- ทิศทางของธุรกิจไม่มีความชัดเจน
- ยอดขายไม่เติบโตอาจจะย่ำอยู่กับที่
- ลูกค้าเริ่มตีจาก พนักงานหมดกำลังใจ
- กำไรน้อย กระแสเงินสดเริ่มลดลง
ในทางตรงข้าม หากผู้จัดการรู้จักวิธีเขียนแผนกลยุทธ์ที่ถูกต้องก็จะช่วยให้
- องค์กรมีทิศทางในระยะยาวที่ชัดเจน
- พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่ามีความหมายที่ได้ปฎิบัติภารกิจที่สำคัญ
- องค์กรสามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดความคุ้มค่า
- สามารถจัดการกับจุดอ่อนที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม
- สามารถเติบโตจากการเสริมจุดแข็งที่โดดเด่น
และนี่คือ “วิธีเขียนแผนกลยุทธ์สำหรับผู้จัดการ”
เริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ขององค์กร
การเขียนแผนกลยุทธ์ที่ดีจะต้องตอบโจทย์วิสัยทัศน์ขององค์กร ผู้จัดการมืออาชีพจะต้องเข้าใจก่อนว่า
วิสัยทัศน์ขององค์กรคืออะไร องค์กรกำลังเดินไปในทิศทางไหน
อะไรคือเป้าหมายสูงสุดที่องค์กรจะต้องไปให้ถึง เพราะแม้ว่าแผนกลยุทธ์นั้นจะเป็นแผนที่ดีแค่ไหนก็ตาม
แต่ถ้าแผนนั้นไม่ได้ทำให้องค์กรขยับเข้าใกล้วิสัยทัศน์ก็ถือว่าเป็นแผนที่ใช้ไม่ได้
เชื่อมโยงกับพันธกิจ
หัวใจสำคัญของพันธกิจก็คือการระบุให้เห็นชัดเจนว่าองค์กรนี้เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาทำไม
มีภารกิจอะไรที่องค์กรจะต้องทำ ซึ่งแน่นอนว่าพันธกิจนี้จะมีความหมายและสร้างคุณค่าให้ Stakeholder เสมอ
เช่น องค์กรมีพันธกิจคือ “องค์กรเราเกิดมาเพื่อช่วยให้ชาวนาไทยอยู่ดีมีสุข” ดังนั้น ถ้าพันธกิจชัดขนาดนี้
ผู้จัดการก็พอจะเห็นภาพแล้วว่าอะไรคือแผนกลยุทธ์ที่องค์กรควรมีเพื่อตอบโจทย์พันธกิจทรงพลังนั้น
วิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนขององค์กร
ขั้นตอนที่สามในการเขียนแผนกลยุทธ์เป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก เพราะว่าคุณจะต้องรู้จักประเมินองค์กรของคุณ
จุดอ่อนและจุดแข็งขององค์กรคุณคืออะไร อะไรคือโอกาสที่คุณมองเห็นในอุตสาหกรรมของคุณ
อะไรคือความท้าทายหรืออุปสรรคที่มีผลกระทบต่อการเติบโตในอุตสาหกรรมของคุณ
ถ้าพูดภาษาง่ายง่ายก็คือคุณจะต้องรู้จักการทำ SWOT Analysis ในขั้นตอนนี้ให้ชัดเจน
กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
เมื่อเราประเมินจุดแข็งจุดอ่อนขององค์กรแล้ว เราก็พอจะกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจนได้ว่า
อะไรคือเป้าหมายที่องค์กรต้องการบรรลุ และควรแตกเป้าหมายใหญ่ให้เป็นเป้าหมายย่อย
ที่แต่ละหน่วยงานมาช่วยกันรับผิดชอบทำให้เกิดขึ้นจริงด้วย เช่น เป้าหมายใหญ่คือยอดขาย 2,500 ล้านบาท
และเป้าหมายย่อยคือมีลูกค้าใหม่จำนวน 200 ราย มีสินค้าใหม่ 4 SKUs มี Lead Time ในการจัดส่งสินค้า
ไม่เกิน 48 ชั่วโมง มีมูลค่าสินค้าในคลังหมุนเวียนไม่เกิน 40 วัน เป็นต้น
กำหนดแผนกลยุทธ์บนจุดแข็งขององค์กร
เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วแต่ละหน่วยงานแต่ละแผนกก็ควรจะเริ่มไปเขียนแผนกลยุทธ์
ที่ตั้งอยู่บนจุดแข็งและโอกาสทางธุรกิจเป็นหลัก ควรจะระมัดระวังแผนกลยุทธ์ที่เป็นจุดอ่อนด้วย
เพราะโอกาสที่จะปฏิบัติงานได้สำเร็จตามกลยุทธ์นั้นจะน้อยลง นั่นคือเหตุผลว่า
ทำไมเราจึงต้องวิเคราะห์ประเมินจุดแข็งจุดอ่อนขององค์กรก่อนที่จะวางแผนธุรกิจ
ส่วนแผนกลยุทธ์ที่ดีก็ควรจะระบุชัดเจนว่าใครทำอะไรเมื่อไหร่อย่างไรวัดผลอย่างไรด้วย
ลงมือทำปฏิบัติงานตามแผนกลยุทธ์
ขั้นตอนสุดท้ายคือ ผู้จัดการจะต้องมอบหมายงานตามแผนให้ทีมงานปฏิบัติงานอย่างชัดเจน
และต้องสื่อสารเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับแผนกลยุทธ์ด้วย อย่าลืมมอบความไว้วางใจ
และมอบอำนาจให้ทีมงานด้วย เพราะพวกเขาเป็นคนปฏิบัติงานที่ต้องมีการแก้ปัญหาและตัดสินใจเสมอ
นอกจากนั้นผู้จัดการจะต้องคอยมอนิเตอร์และสนับสนุนให้ทีมงานทุกคนเดินตามแผนกลยุทธ์นี้ด้วย
และนี่คือห้าขั้นตอนในการเขียนแผนก่อนและหลังขององค์กรซึ่งมีความสำคัญในทุกขั้นตอน
แผนกลยุทธ์นี้สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทุกปีขึ้นอยู่กับสถานการณ์
แต่โดยปกติแล้วพันธกิจจะไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นหัวใจสำคัญที่องค์กรเราเกิดขึ้นมาเพื่ออะไร
วิสัยทัศน์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เพราะเมื่อเราบรรลุวิสัยทัศน์นั้นแล้วเราก็อาจจะมากำหนดวิสัยทัศน์ตัวใหม่
ซึ่งก็หมายถึงภูเขาที่เราพิชิตแล้ว เราก็คงอยากจะมองหาภูเขาที่สูงขึ้นไปอีกหรือภูเขาลูกใหม่เช่นกัน
หากท่านชอบบทความนี้ ท่านสามารถกดติดตามเพื่อรับข่าวสารและเนื้อหาดีๆจาก DeOne Academy ได้
หากท่านใดสนใจที่จะจัดหลักสูตรอบรมตั้งแต่ระดับพนักงานตลอดจนระดับผู้บริหาร
ทาง DeOne Academy มีครบทุกหลักสูตร ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตร
- ด้านภาวะผู้นำ Leadership
- การขาย Sales
- การวางแผนธุรกิจ Business Plan
- การโค้ช Coaching
- และอีกมากมาย
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 062-284-9491, 098-424-5241, 089-515-8558