มีคนจำนวนมากที่เจรจาแล้วล้มเหลว เสียเปรียบ เสียความสัมพันธ์กับคู่เจรจาไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เป็นเช่นนั้น หรือเพียงเพราะเราพูดไม่เก่ง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมพอ หรือเป็นเพราะเรายอมอ่อนข้อมากเกินไปกันแน่
ข้อเท็จจริงแล้วการเจรจาที่ล้มเหลวมีสาเหตุหลายประการ ซึ่งในบทความนี้อาจจะขอแชร์อีกมุมหนึ่งของการหลีกเลี่ยงเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยการไปโฟกัสที่เคล็ดลับในการเจรจาต่อรองแบบวิน-วิน
แน่นอนว่าหัวใจสำคัญของการเจรจาต่อรองคือ “การหาข้อสรุปร่วมกัน” ซึ่งต้องเป็นข้อสรุปที่ได้รับการยอมรับและสร้างความพึงพอใจให้กับทั้งสองฝ่ายคือทั้งเราและคู่เจรจา หากท่านพร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องนี้ ไปอ่านกันเลยครับ
5 เคล็ดลับในการเจรจาต่อรองแบบ Win-Win
1. รู้เขารู้เรา เตรียมตัวให้พร้อม
การหาข้อสรุปที่ทั้งสองฝ่ายพอใจจะเกิดขึ้นได้ หากเรามีการเตรียมตัวเตรียมข้อมูลที่พร้อม หลักการรู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง ยังใช้กับสถานการณ์เจรจาต่อรองได้อย่างดี โจทย์สำคัญก่อนไปเจรจาคือเราควรทำการบ้านเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้
- อะไรคือสิ่งที่คู่เจรจาต้องการมากที่สุด (Maximum Deal)
- อะไรคือสิ่งที่คู่เจรจาคาดว่าจะต้องได้ (Medium Deal)
- อะไรคือสิ่งที่คู่เจรจายอมรับได้เพื่อจบการเจรจา (Minimum Deal)
- อะไรคือสิ่งที่คู่เจรจาให้ความสำคัญ อะไรคือสิ่งที่คู่เจรจากังวล
- คู่เจรจาส่งใครเข้าร่วมการเจรจาบ้าง มีตำแหน่งอะไรบ้าง
บทบาทในการเจรจาของแต่ละคนคืออะไร อุปนิสัยสไตล์การเจรจาเป็นอย่างไร
เมื่อเราทำการบ้านเหล่านี้แล้วเราก็สามารถประเมินได้ว่า ข้อตกลงที่เหมาะสมในการเจรจาครั้งนี้อยู่ตรงไหน ซึ่งเพิ่มโอกาสในการได้ผลลัพธ์ที่วิน-วินในระดับที่สูงมาก
2. ส่งสัญญาณเชิงบวก
ข้อนี้สำคัญมากและเป็นจุดเริ่มต้นของการเจรจาที่ประสบผลสำเร็จคือการส่งสัญญาณเชิงบวก (Positive Signal) ให้กับคู่เจรจา ตัวอย่าง เช่น ทางเรามีความยินดีอย่างมากที่ได้มาร่วมประชุมพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันในการทำ Deal นี้ให้สำเร็จ หากทางคุณมีประเด็นอะไรที่อยากปรับแต่งในข้อเสนอของเรา ก็สามารถบอกตรงๆได้เลยนะครับ มีประเด็นอะไรที่ทางเราปรับให้ได้เราจะดำเนินการให้ครับ มีประเด็นอะไรที่เราปรับไม่ได้ เรามาหาทางออกร่วมกันครับ เจ้านายผมย้ำมาเลยครับว่างานนี้ต้องสำเร็จร่วมกัน
นี่ครับคือการส่งสัญญาณบวกในช่วงเริ่มต้นการเจรจา โดยหลักจิตวิทยาแล้ว คู่เจรจาต้องรับรู้ได้ถึงความตั้งใจ ความจริงใจที่เราอยากจะหาข้อตกลงที่เหมาะสมและวิน-วิน ขอให้นำหลักการนี้ไปใช้ในการเจรจาทุกครั้ง
3. สร้างบรรยากาศแห่งมิตรภาพ
เรื่องนี้สำคัญตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการเจรจา บรรยากาศแห่งมิตรภาพไม่ได้แปลว่าต้องหัวเราะขบขันสนุกสนานในการเจรจา แต่หมายถึงบรรยากาศที่มีแต่ความเห็นอกเห็นใจ การเลือกใช้คำพูดที่แสดง Empathy ความเข้าใจสถานะของทั้งสองฝ่าย ไม่เลือกใช้ภาษาที่กดดัน รุนแรง ข่มขู่ กระแทกแดกดันหรือเหน็บแนม สิ่งที่ต้องคำนึงเสมอคือจุดจบหลายครั้งของการเจรจาคือการระเบิดอารมณ์ใส่กัน การใช้น้ำเสียงและกิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสมเป็นสาเหตุหลักของการเจรจาที่ล้มเหลวเสมอ
ดังนั้นในกรณีที่สถานการณ์กดดันหรือมาถึงทางตัน เราควรขอยุติการเจรจาชั่วคราว (พูดง่ายๆคือขอเบรคสัก 20 นาทีเพื่อให้บรรยากาศคลายความกดดัน และทุกคนได้ relax และมีสติในการมองหา Solution ที่วิน-วิน)
4. เน้นความร่วมมือมากกว่าแข่งขัน
อย่าได้ตีความผิดไปว่าการเจรจาเหมือนการแข่งขันที่ต้องมีผู้ชนะและผู้แพ้ มันไม่ใช่ Win-Lose หรือ Zero Sum Game แต่การเจรจาต่อรอง คือการสื่อสารพูดคุยกันเพื่อหาทางออกร่วมกัน แนวคิดหลักคือการร่วมมือกัน (Collaboration) ของทั้งสองฝ่าย บางทีก็เรียกว่า Synergy ซึ่งแปลว่า 1+1 ต้องไม่เท่ากับ 2 แต่ต้องมากกว่านั้น ซึ่งหากเราสามารถหาความร่วมมือกันได้ดี 1+1 อาจจะได้ถึง 10 เลยก็ได้
หลักคิดนี้ทำให้เกิดความร่วมมือดี ๆ ในการเจรจาต่อรองมาแล้วมากมาย จำไว้ว่าทุกครั้งที่เราออกไปเจรจากับคู่ค้ากับลูกค้า เราต้องคิดเสมอเลยว่างานนี้เราและเขาจะร่วมมืออะไรกันได้บ้าง เราจะจัดสรรทรัพยากรของเราและเขาอย่างไร เราจะเอาจุดแข็งของเราและเขามาผสานกันอย่างไรเพื่อให้เกิด Win-Win Solution
5. ยืดหยุ่นบนหลักการยุติธรรม
ข้อควรระวังมาก ๆ ในการเจรจาคือ การยืนกรานที่มากเกินไป ไม่ยอมปรับเปลี่ยนเงื่อนไขใด ๆ ขาดความยืดหยุ่นในการเจรจาซึ่งจะส่งผลให้การเจรจาล้มเหลว การยอมถอยไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ แต่การยอมถอยคือการแสดงให้เห็นว่าเราอยากให้การเจรจานี้มีความคืบหน้าและประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามการยอมถอยก็ต้องมีหลักการ เพราะไม่มีใครยอมถอยจนกระทั่งเสียเปรียบอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้น การยืดหยุ่นในการเจรจาจึงเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่ก็ต้องอยู่บนหลักการของความยุติธรรมด้วย เมื่อทั้งสองฝ่ายมองเห็นร่วมกันว่าข้อตกลงมีความยุติธรรม การหาข้อสรุปที่ Win-Win ก็สามารถทำได้ไม่ยากเลย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ 5 เคล็ดลับในการเจรจาต่อรองแบบ Win-Win อ่านแล้วเข้าใจแล้วยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เกิดประโยชน์ จนกว่าจะได้นำเคล็ดลับเหล่านี้ไปลงมือทำดูนะครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นทักษะการเจรจาต่อรองหรือทักษะอะไรก็แล้วแต่ หัวใจสำคัญคือการฝึกฝน ฝึกฝนและฝึกฝนจนเกิดความชำนาญในการใช้งานครับ
ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่: Negotiation Skills
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 098-424-5241
https://www.facebook.com/DeOneAcademy