ทำไมผู้จัดการจำเป็นต้องพัฒนาภาวะผู้นำมากกว่าทักษะอื่น

ในองค์กรหนึ่ง ผู้จัดการที่ดี 1 คน สามารถสร้างประโยชน์ให้กับองค์กรได้อย่างมหาศาล เช่น การเป็นผู้จัดการที่คอยผลักดันให้พนักงานเกิดการมีส่วนร่วม มีประสิทธิภาพในการทำงาน นำมาซึ่งผลงานและผลประกอบการที่ดีขององค์กร แต่ถึงอย่างนั้น หลาย ๆ องค์กรก็ยังไม่ให้ความสำคัญในจุดนี้มากเพียงพอ และไม่ได้ลงทุนในการพัฒนาความรู้และทักษะเพื่อดึงศักยภาพและภาวะผู้นำในตัวผู้จัดการออกมาอย่างเต็มที่

นี่คือสาเหตุที่เราต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาภาวะผู้นำ

ในอดีตหลายองค์กรมีความเข้าใจบทบาทของผู้นำและผู้จัดการแตกต่างกัน เช่น ผู้นำเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ มองเห็นภาพใหญ่ เป็นนักคิดและหัวเรือในการนำกลยุทธ์มาใช้ในองค์กร ในขณะที่ผู้จัดการเป็นคนที่ควบคุมการทำงานให้สำเร็จ คอยกำหนดทิศทางดำเนินงานและทีมงานในการทำงาน

พัฒนาภาวะผู้นำ

แต่ในปัจจุบันที่โลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ข้อมูลดังกล่าวมิใช่บทบาทของผู้จัดการในปัจจุบันอีกต่อไป ข้อมูลจากบริษัท Gall Up พบว่า ในปัจจุบันผู้จัดการไม่ได้มีบทบาทจำกัดอยู่เพียงระดับกำกับดูแลเท่านั้น เพราะการมีส่วนร่วมของทีมกว่าร้อยละ 70 ได้รับอิทธิพลมาจากการผลักดันของผู้จัดการ และยิ่งไปกว่านั้น บทบาทของหัวหน้างานที่เคยสั่งและควบคุมทีมงานไม่สามารถนำมาใช้ในการทำงานปัจจุบันได้อีก เพราะบทบาทของผู้จัดการต้องปรับเปลี่ยนเป็น โค้ช หรือผู้ฝึก มากกว่าเป็นหัวหน้าธรรมดา ซึ่งน่าผิดหวังที่ในความเป็นจริงการพัฒนาผู้จัดการจำนวนมาก มีผู้จัดการเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่เข้าใจว่าการทำงานของตนเองส่งผลต่อโอกาสในการขยับขึ้นไปสู่ตำแหน่งผู้นำได้อย่างไร และมีเพียงร้อยละ 8 เท่านั้นที่เห็นด้วยว่าการประเมินผลงานก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเอง

พัฒนาภาวะผู้นำ

ภาวะผู้นำในระดับผู้จัดการจึงยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น หลายบริษัทที่เห็นความสำคัญและลงทุนกับการพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำมากเกินไป มีเพียงไม่กี่องค์กรที่สามารถประเมินและลงทุนในการพัฒนาได้อย่างเหมาะสม หากองค์กรของคุณเห็นด้วยกับการพัฒนาภาวะผู้นำของผู้จัดการก็ต้องรีบดำเนินการ เพราะการยกระดับขีดความสามารถของผู้จัดการในทุกระดับชั้นไม่ใช่เพียงเรื่องสำคัญ แต่จำเป็น

จากการศึกษาของบริษัท Gall Up ที่ศึกษา 550 บทบาทงาน กับ 360 ขีดความสามารถเฉพาะของผู้จัดการ พบว่าหัวใจสำคัญในการพัฒนาขีดความสามารถของภาวะผู้นำซึ่งพบในผู้จัดการที่ทำงานสำเร็จ มีผลงานโดดเด่น มีความสามารถที่จำเป็นต่อการนำพาทีมในยุคนี้ ได้แก่

  1. ความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ เริ่มตั้งแต่การติดต่อ สร้างความไว้ใจ แบ่งปันความคิดเห็น จนสามารถทำงานได้ลุล่วง
  2. ความสามารถในการพัฒนาคน ช่วยเหลือผู้อื่นผ่านการพัฒนาจุดแข็งของทีมงาน มีความคาดหวังที่ชัดเจน ให้การสนับสนุนและโค้ชระหว่างทาง
  3. ความสามารถในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง สามารถตั้งเป้าหมายในการเปลี่ยนแปลง นำพา และใส่ความพยายามตั้งใจในการปรับงานให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์
  4. ความสามารถในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น มีความสามารถในการเพิ่มพลังบวก มุมมอง ความมั่นใจ และการยอมรับที่เป็นแรงจูงใจและมีอิทธิพลต่อการทำงานก้าวข้ามความท้าทาย
  5. ความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สามารถหาและประเมินข้อมูล โดยประยุกต์ความรู้ที่มีเพื่อใช้แก้ปัญหาได้
  6. ความสามารถในการสื่อสารอย่างชัดเจน มีการฟัง แบ่งปันข้อมูลอย่างกระชับและตรงประเด็น เปิดรับฟังความคิดเห็นผู้อื่น
  7. ความสามารถในการสร้างความรับผิดชอบ สามารถระบุผลของการกระทำ รับผิดชอบการกระทำและผลที่เกิดขึ้นต่อตนเองและผู้อื่น

นอกเหนือไปจากความสามารถในการปฏิบัติงานแล้ว การที่ผู้จัดการเป็นตัวอย่างในการสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่นก็สำคัญเช่นกัน เพราะจะส่งผลดีต่อการสร้างคุณค่าขีดความสามารถของภาวะผู้นำ ซึ่งอาจเกิดจากสถานการณ์ที่ต้องแสดงภาวะผู้นำออกมา เช่น เมื่อผู้จัดการหรือพนักงานแสดงภาวะผู้นำในการปกป้องชื่อเสียงองค์กร การต้องริเริ่มขั้นตอนใหม่ ๆ ในการทำงาน เป็นต้น ซึ่งการทำเช่นนี้คือการกระทำของผู้นำที่แท้จริง

ยิ่งไปกว่านั้น การช่วยให้ผู้จัดการได้มีประสบการณ์ที่ต้องแสดงภาวะผู้นำแต่เนิ่น ๆ เป็นการลงทุนพัฒนาผู้นำอย่างมีคุณค่าและสร้างมูลค่า ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การทำงานกับผู้จัดการที่มีศักยภาพสูง การทำงานในต่างแดน การบริหารจัดการข้อติชมจากลูกค้า การโค้ชผู้จัดการให้มีภาวะผู้นำเพื่อใช้ในการพัฒนาคนต่อไป เป็นต้น

พัฒนาภาวะผู้นำ

อย่างไรก็ดี ภาวะผู้นำเป็นกลยุทธ์สู่ความสำเร็จที่ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน ทำให้หลายองค์กรมีจุดบอดในการสร้างภาวะผู้นำของผู้บริหารระดับบนซึ่งมีศักยภาพสูง สาเหตุมาจากความเชื่อผิด ๆ ว่ามีข้อแตกต่างเพียงเล็กน้อยระหว่างการจัดการผู้อื่นและการจัดการผู้จัดการ (สามารถอ่านรายละเอียดส่วนนี้ได้จากหนังสือ Leaders at all Levels โดย Ram Charan) ทำให้บั่นทอนความแข็งแรงขององค์กรในการเดินหน้าสู่อนาคต

สิ่งนี้คือคือจุดที่ภาวะผู้นำจะสามารถสร้างความแตกต่าง หากองค์กรสร้างประสบการณ์ที่แตกต่างให้กับผู้จัดการ ผนวกกับแผนการพัฒนาภาวะผู้นำให้เป็นแกนกลางของกลยุทธ์แล้ว คุณไม่เพียงสร้างทางเลือกและโอกาส แต่ได้สร้างผู้นำรุ่นถัดไปไว้แล้ว

DeOne Academy มีหลักสูตรพัฒนาภาวะผู้นำที่ตอบโจทย์ผู้นำทุกระดับ เรามีประสบการณ์กว่า 18 ปีในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรชั้นนำ ด้วยวิทยากรมืออาชีพ สนใจสอบถามรายละเอียดและให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
📞โทร: 065-097-9444
💚Line: @deoneacademy
📩E-Mail: info@deoneacademy.com
📌Website: https://deoneacademy.com/

ที่มาของข้อมูลจาก Gall Up
Gallup: The Future’s Top Workplaces Will Rely on Manager Development
https://www.gallup.com/workplace/324131/future-top-workplaces-rely-manager-development.aspx

แชร์โพสต์นี้