วิธีแก้ไข 5 Mindset ที่จะส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณ

mindset

โดยธรรมชาติ เราทุกคนมักจะมีแนวโน้มที่ Mindset แนวคิดหรือความเชื่อในหลาย ๆ เรื่อง อันเกิดจากการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ในแต่ละช่วงวัย แนวคิดหรือความเชื่อต่าง ๆ นั้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดก็ตาม ล้วนมีผลต่อการตัดสินใจและการดำเนินชีวิตของเรา และมีผลต่อการตัดสินใจดำเนินการต่าง ๆ ให้ส่งผลต่อผลลัพธ์ที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะมีความเป็นไปได้ที่เราจะเลือกหรือดำเนินการตามแนวคิดหรือความเชื่อนั้น

พวกเราเคยเจอเหตุการณ์ที่บางครั้งแนวคิดและความเชื่อที่เรายึดถือกันมาตลอดทำให้เราพลาดโอกาสในการประสบความสำเร็จในทั้งการทำงานและชีวิตส่วนตัวหรือไม่ แล้วหากเราย้อนกลับไปแก้ไขในสถานการณ์นั้นได้ เราจะทำอย่างไร 

ดร.ชัยพัชร์ เลิศรักษ์ทวีกุล Chief Executive Officer & Founder – DeOne Academy ชี้ให้เห็นว่า ในยุคโลกาภิวัตน์ นวัตกรรม และการติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ ๆ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะทำให้เราก้าวทันโลกและประสบความสำเร็จ ในหน้าที่การงาน ความคิดหรือความเชื่อบางอย่างที่เรามีอยู่นั้นอาจต้องมีการปรับเปลี่ยน เนื่องจากเป็นสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจของเราไม่สามารถเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนในโลกที่เต็มไปด้วย Disruption ในทุก ๆ ธุรกิจ 

วิธีแก้ไข 5 Mindset ที่จะส่งผลเสียต่อธุรกิจของคุณ

1. ไม่กล้าเปลี่ยนแปลง

ในโลกธุรกิจใหม่ปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เราทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเรายังไม่กล้าเปลี่ยนแปลง ไม่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาจจะทำให้เรากลายเป็นผู้ตามหรือไม่ได้ดำเนินธุรกิจอีกต่อไป

เราควรที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง เรียนรู้สิ่งรอบตัวอย่างต่อเนื่อง วางแผนรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและประเมินสถานการณ์รอบด้านอยู่เสมอ จะทำให้เราสามารถก้าวไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลาได้

2. กลัวความล้มเหลว

เคยสังเกตกันมั้ยครับว่า ผู้นำที่ประสบความสำเร็จหลายคนเลยทีเดียวที่กว่าจะมีวันนี้ได้พวกเขาเคยล้มเหลวกับมาแล้วทั้งนั้น หากผู้นำเหล่านั้นกลัวความล้มเหลว กลัวผิดพลาด เขาจะไม่ลงมือทำ ไม่แก้ไข ไม่พัฒนาตัวเอง และมีทางที่จะประสบความสำเร็จได้เลย

เราควรที่จะมองทุกความล้มเหลวให้เป็นโอกาสในการพัฒนา พยายามที่จะเรียนรู้ความผิดพลาดนำมาพัฒนาปรับปรุงตนเอง หรือพัฒนาวิธีการทำงานใหม่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต เพื่อให้เราสามารถก้าวไปข้างหน้า ที่มีผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม

3. คำแนะนำหรือข้อเสนอแนะเป็นสิ่งไม่ดี

หากมีคนมาบอกเราว่าสิ่งที่เราทำนั้นไม่ถูกต้อง และให้คำแนะนำเพื่อให้เรามีความสามารถหรือแนวทางที่เหมาะสมกับการทำงานนั้น ๆ ให้สำเร็จ หากมุมมองของเรามองว่าคำแนะนำหรือคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้รับนั้น เป็นสิ่งที่รับไม่ได้เลย เพราะคิดว่าตนเองถูกต้องเสมอ ไม่รับฟังความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะใด ๆ จากคนอื่น จะทำให้เราไม่สามารถเปิดใจยอมรับคำแนะนำเหล่านั้น เพื่อนำมาปรับปรุงกระบวนการทำงานของเรา

เราควรต้องมองว่า ไม่ว่าจะทำสิ่งใดก็ตามย่อมมีคนที่จับตามอง และพยายามที่จะให้คำแนะนำหรือตำหนิเราอยู่แล้ว หากเรายอมรับฟังบางประเด็นก็อาจจะมีประโยชน์สำหรับเรา เพื่อนำไปพัฒนาและต่อยอดให้ดีขึ้นได้

mindset

4. หลีกเลี่ยงความท้าทาย

เราทุกคนมักจะพอใจกับการทำในสิ่งที่เราถนัด คุ้นเคย หรือทำได้ดี มีทักษะอยู่แล้วโดยไม่ต้องพยายามมากนัก และรู้สึกปลอดภัยที่จะทำสิ่งนั้นไปเรื่อย ๆ แต่ในโลกปัจจุบัน ความท้าทายและความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ มีมากขึ้น หากองค์กรของเรายังพอใจในการดำเนินธุรกิจที่อยู่ใน Comfort Zone ยังใช้วิธีหรือแนวทางเดิมในการทำงาน ไม่กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้เรามีความสามารถที่ทัดเทียมหรือโดดเด่นเมือเปรียบเทียบกับคนอื่นในธุรกิจ ก็อาจจะส่งผลให้ธุรกิจของเรามีความล้าหลัง และเสียเปรียบคู่แข่งได้

หากเราก้าวออกจาก Comfort Zone มองว่าความท้าทายเป็นเรื่องตื่นเต้น เราควรมีเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เราจะเห็นว่าการกระทำแบบเดิมหรือทักษะเดิมที่มีอยู่อาจไม่เพียงพอ ต้องมีการปรับตัวของเราให้พร้อมรับความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบ และสามารถเป็นผู้นำในการแข่งขันทางธุรกิจได้

5. อยากประสบความสำเร็จเร็ว ๆ

คงไม่ปฏิเสธว่าเราทุกคนนั้นต้องการประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่หากเราคิดว่าอยากประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ได้พิจารณาปัจจัยรอบด้าน หรือไม่ได้พิจารณาความพร้อมของทีมงานและองค์กร มักจะเป็นความสำเร็จโดยที่ทำได้ด้วยตัวเองคนเดียว และเป็นความสำเร็จที่ไม่ยั่งยืน

หากเรามองว่าความสำเร็จที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้นั้น เป็นสิ่งที่ทีมงานต้องร่วมมือกัน เราควรสร้างบรรยากาศให้ทีมงานได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในการดำเนินการ ให้กำลังใจทีมงานในการมุ่งสู่เป้าหมาย และทำให้พวกเขามีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ ถึงแม้ความสำเร็จนั้น จะต้องใช้เวลายาวนานอีกสักหน่อยในการที่จะไปถึง แต่เราจะได้ทีมงานที่แข็งแกร่งที่พร้อมฟันฝ่าอุปสรรคเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ทั้งในปัจจุบันและอนาคต

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ พอจะเห็นภาพของ Mindset ที่ทำให้องค์กรของเราไม่พร้อมในการแข่งขันกันแล้วใช่ไหม อ่านแล้วเชื่อว่าพวกเราคงมองเห็นประโยชน์และพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดในองค์กรของเรากันนะครับ

การดำเนินธุรกิจในยุค Disruption นั้น ถ้าเราหยุดเดิน ไม่ใช่แค่การอยู่นิ่งกับที่เท่านั้น แต่หมายถึงการลดลำดับความได้เปรียบในการแข่งขันขององค์กรอีกด้วย เพราะคู่แข่งมีเกิดขึ้นมาเรื่อย ๆ และพร้อมที่จะพัฒนาไปมากกว่าเรา หากเราต้องการที่จะดำรงอยู่ในโลกธุรกิจที่มีการแข่งขันที่ดุเดือดได้ ทั้งองค์กรและเราต้องพร้อมที่จะเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถข้ามผ่านความท้าทายนี้ได้ตลอดไป

ดูรายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติมได้ที่: In House


ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
โทร : 098-424-5241
https://www.facebook.com/DeOneAcademy

แชร์โพสต์นี้